ไร่มะม่วงหิมพานต์ ส่งตรงจากสวนนครศรีธรรมราช

ไร่มะม่วงหิมพานต์

เม็ดมะม่วงหิมพานต์ หรือ ที่จังหวัดนครศรีธรรมราชเรียกอีกชื่อว่า “หัวครก” ค่ะ มะม่วงหิมพานต์ส่งตรงจากสวนของแม่เฒ่าเอียดเองเลยค่ะ สวนแม่เฒ่าเอียดอยู่ที่ บ้านหนับเภา 4 หมู่ 8 ต.ท่าขึ้น อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ต้นมะม่วงหิมพานต์ของแม่เฒ่าเอียด ไม่ใช้ยาฆ่าในการเพาะปลูก แม้กระทั้งการเผา หรือ การคั่วก็ไม่ใช้น้ำมัน ไม่เหม็นหืน ไม่ใช้สารปรุงแต่งใดๆทั้งสิ้นค่ะ รับรองได้ว่าทุกอย่าง ธรรมชาติ 100% ตอนนี้สวนแม่เฒ่ามีประมาณ 10 ไร่ค่ะ และจะค่อยทยอยขยายปลูกไปเรื่อยๆค่ะ เดิมทีสวนอื่นๆจะเป็นสวนยางพาราค่ะ

เม็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นพืชที่ปลูกง่าย เจริญเติบโตเร็ว ให้ผลผลิตเร็ว เพียงแค่ 5-7 ปี ให้ผลผลิตนานหลายสิบปีเลยค่ะ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เป็นพืชตระกูลเดียวกันกับมะม่วงทั่วไปเนี่ยแหละค่ะ แต่มีความแปลกพิสดารตรงที่มีลักษณะผล เมล็ดโผล่อยู่นอกผลห้อยติดอยู่ตรงปลายๆของลูก ดูแล้วแปลกประหลาดจากไม้ผลทั่วไปที่สุดค่ะ ซึ่งความจริงแล้ว ในทางพฤกษศาสตร์ ผลไม้ที่เห็นเป็นผลสีเขียวหรือเหลือง โดยส่วนใหญ่จะเป็นพันธุ์นิยมปลูกกินใบหรือรับประทานยอดอ่อน โดยใบจะไม่ฝาด ซึ่งทางภาคใต้นิยมปลูกกันมากค่ะ และผลสีแดง จะเป็นพันธุ์ที่เน้นกินผลค่ะ ซึ่งใบจะฝาก ผลสีแดงจริงๆแล้วเกิดจากผลที่แก่มากๆจะสุกเป็นสีแดงน่ารับประทาน นั้นคือ การพองตัวของก้านดอกเป็นผลปลอมหรือผลเทียม ส่วนผลจริงๆนั้นคือ เมล็ดที่ติดอยู่ส่วนปลาย สีเทาหรือดำ เมื่อกะเทาะเอาเนื้อในออกมาจะมีสีขาว นำมาตากแห้ง โดยกรรมวิธีต่างๆ เช่น คั่ว อบ และทอด ให้สุก ก็คือ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่เราๆ ชอบใช้เป็นของทานเล่น แต่มะม่วงหิมพานต์ของแม่เฒ่าเอียด ใช้วิธีการคั่วหรือเผาโบราณค่ะ โดยใช้ไฟร้อนๆ ที่ปราศจากน้ำมัน เลยทำให้ออกมา หอม มัน กรอบ หวานอร่อยแบบธรรมชาติค่ะ และยิ่งถ้ารับประทานแทน ขนมพวกสเนค ขนมอบกรอบ รับรองได้อยู่ท้องค่ะ และเผลอๆน้ำหนักจะลดลงด้วยค่ะ (มีงานวิจัยรองรับด้วยนะค่ะ ^^)

มีความเชื่อกันว่าเม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่ดีต้องมาจากภาคใต้ค่ะ เพราะจะหวานแบบธรรมชาติมากกว่าภาคอื่นๆค่ะ อาจด้วยดินทางภาคใต้ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ที่สุด ที่ได้รับแร่ธาตุจากเขาหลวงที่สูงที่สุดของภาคใต้ สูงสุดประมาณ 1,835 เมตร ที่มีทรัพยากรธรรมชาติ มีแร่ธาตุต่าง ๆ ที่สำคัญมากมาย ไหลลงมาตามแม่น้ำลำธาร และที่สำคุณผ่านอำเภอท่าศาลา และผ่านสวนของแม่เฒ่าเอียดเองด้วยด้วยค่ะ เลยทำให้เม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่ออกมาหวานเป็นธรรมชาติที่สุด และยิ่งด้วยวิธีการเผาเม็ดมะม่วงหิมพานต์แบบโบราณ ดั้งเดิมมีมายาวนาวกว่า 100 ปี ตามแบบฉะบับของสูตรของแม่เฒ่าเองที่สิบทอดกรรมวิธีการเผามาตั้งแต่ต้นตระกูล (ปัจจุบันแม่เฒ่าเอียด อายุ 80 กว่าปีแล้วค่ะ) กรรมวิธีแบบโบราณ ทำให้เม็ดมะม่วงหิมพานต์ หอมกลิ่นคั่ว มัน กรอบ และคงความฟรุ๊ตตี้หวานเป็นธรรมชาติ สะดวกพร้อมทานเลยค่ะ แต่แบบดั้งเดิม ชาวบ้านจะทานกันแบบมีเปลือกนะค่ะ แต่เราก็ทำแบบไม่มีเปลือกให้ด้วยค่ะ ใช้เวลาลอกเหยื่อกันยากลำบากมาเลย กว่าได้กินทีละเม็ด ต้องเผาที่ละนิด เพราะว่า ถ้าเผาเยอะเม็ดจะไหม้ไม่เท่ากันค่ะ   ลองมาชิมมะม่วงหิมพานต์ของแม่เฒ่าเอียดกันดูมั๊ยค่ะ ^^

รู้มั๊ย ? เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 1 ปี ออกผลเพียงครั้งเดียว ทางภาคใต้จะออกช่วงเมษายน ถึง พฤษภาคม ค่ะ กว่าจะได้กินของอร่อยๆ ก็กินได้เพียงครั้งเดียวต่อปีเท่านั้น ไหนจะกรรมวิธีที่ทำยากมากๆค่ะ กว่าจะเผาเสร็จ ต้องเผาทีละนิด ตอกทีละนิด ปลอกเปลือกที่ละหน่อย แล้วก็ต้องมาเลือกเม็ดอีกทำอยากสุดๆเลยคะ กรรมวิธีแบบดั้งเดิมแบบนี้หาดู หาทำยากแล้วค่ะ ไม่แพงแน่นอนค่ะ สำหรับกรรมวิธีการทำที่แสนยากมากๆ

มะม่วงหิมพานต์ พันธุ์พื้นเมืองมีต้นกำเนิดมากว่า 100 ปี ที่อร่อยที่สุด หากินได้ยาก ต้องลอง!ภาพนี้คือแม่เฒ่าเอียดกำลังเก็บผลจากต้นในส่วนของแม่เฒ่าเอียดเองค่ะ ^^

#มะม่วงหิมพานต์เผาโบราณ แม่เฒ่าเอียด กรรมวิธีการเผามีมากว่า 100 ปี
กรรมวิธีการแปรรูปต่างอย่างไรกับกรรมวิธีปัจจุบันบ้าง ?

กรรมวิธีการเผาแบบโบราณสูตรเก่าแก่ดั้งเดิมกว่า 100 ปี สืบทอดต่อกันมารุ่นต่อรุ่นค่ะ เสน่ห์อยู่ที่ยางในเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เมื่อโดนความร้อนจะปะทุออกมาติดไฟ เกิดการอบภายในทำให้มีกลิ่นหอม มัน กรอบ ไร้น้ำมัน คงความฟรุ๊ตตี้ของเม็ดถั่วที่สุด เป็นที่ติดใจของผู้ได้ชิม ไม่มีสารปรุงแต่ง ไม่มีวัตถุกันเสีย ไม่ได้ใช้ยาฆ่าแมลง ไม่ใช้ถังแก๊ซในการคั่ว ใช้ฟืนจากธรรมชาติโดยเก็บกิ่งไม้แห้งจากสวนยางพารา มาทำเป้นฟืน ทุกอย่าง “ธรรมชาติ 100%” (ปัจจุบันกรรมวิธีแบบดั้งเดิมหาดู หากินได้ยากแล้วค่ะ)

กรรมวิธีปัจจุบันหลักๆจำแนกได้ 4 ประเภท ดังนี้
1. จะเป็นกระบวนการ “ต้มแล้วนำไปอบ” ทำให้รสชาติหายไปหมดรวมทั้งวิตามิน
2. กระบวนการทอด จะมีคลอเรสเตอรอลหรือไขมันที่ไม่ดีจากน้ำมัน เก็บไว้นานๆจะเหม็นหืนได้ค่ะ
3. กระบวนการคั่วมะม่วงหิมพานต์ โดยกรรมวิธีนี้จะใช้ข้าวมาช่วยคั่วไฟจะไม่โดนเม็ดโดยตรงค่ะ
4. กรรมวิธีการเผาเป็นการนำผลสดจากต้นไปตากแดดแล้วไปตากแดดก่อนนำมาเผาที่เม็ดแบบร้อนๆเลยทำให้มีความหอมเป็นพิเศษ มัน หวานคงความฟรุ๊ตตี้ของผลไม้

1.กรรมวิธีการเผา

ข้อดีมะม่วงหิมพานต์เผา
– เม็ดจะหวานกว่า หอม มัน กว่า เพราะ กรรมวิธีนี้ เป็นการเก็บผลผลิตจากต้นแล้วเอาไปตากแห้งก่อนมาเผา เลยทำให้ วิตามินแร่ธาตุ อยู่ครบ และจำนวนเม็ดที่ได้จะเยอะกว่าปกติเพราะเม็ดมีความแห้งมาก

4. กรรมวิธีการคั่ว

ข้อดีมะม่วงหิมพานต์ คั่ว
– เนื่องจากเม็ดไม่ได้โดนไฟโดยตรงโอกาสในการเกิดเม็ดไหม้จะมีน้อยและทำให้ผลเสียที่ต้องทิ้งน้อยลงไปด้วยได้เม็ดสวยๆมากกว่ากรรมวิธีการเผาแบบดั้งเดิม

ข้อเสียมะม่วงหิมพานต์ คั่ว
– กรรมวิธีนี้ถึงแม้จะยังทำได้ยาก ใช้เวลานาน เลยไม่สามารถทำให้ขยายกำลังผลิตได้ไม่มาก และเรื่องของกลิ่นไหม้ของเปลือกนอกไม่ค่อยไหม้ ทำให้กลิ่นหอมของการคั่วสู่ไม่ได้เลยกับกรรมวิธีการเผา

? สินค้าแชมเปี้ยน 1 ใน 25 ของดีทางภาคใต้ ส่งตรงจากนครศรี ฯ และได้เชิญไปออกงานระดับโลกในงาน Thaifex
#มะม่วงหิมพานต์เผาโบราณแม่เฒ่าเอียดใส่ใจทุกเม็ดเด็ดแบบต้นตำหรับ?

#มะม่วงหิมพานต์ ของแม่เฒ่าเอียด ใส่ใจทุกรายละเอียดในการทำ และทุกอย่างต้องอร่อยแบบธรรมชาติ ไม่ใช้น้ำมันในการคั่ว จึงออกมาเป็น #เม็ดมะม่วงหิมพานต์ #ดีต่อใจ #ดีต่อสุขภาพ

แม่เฒ่าได้เริ่มสถานที่ผลิต อยู่ที่ ท่าศาลา จังหวัด นครศรีธรรมราช เพื่อให้ได้มาตราการผลิตมากขึ้นไปอีกและรองรับเพื่อส่งออก รองรับมาตราฐานการผลิตต่างๆค่ะ เช่น อย ฮาลาล GMP Codex และอยากให้ลูกๆหลานได้กินของอร่อยถูกสุขอนามัย มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากๆขึ้นไปอีก หวังว่าลูกหลานๆจะได้ทานของดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพกันนะค่ะ

อยากรู้ไหมค่ะ ว่ากรรมวิธีเผาโบราณแบบบ้านๆ แบบดั้งเดิมในเมื่อก่อน เป็นอย่างไร ไปชมวีดีโอกันเลยค่ะ https://www.facebook.com/grandmomaead/videos/1196197367217893/

แหล่งเรียนรู้การเผามะม่วงหิมพานต์แบบโบราณ

เป็นเจ้าแรกของนครศรีธรรมราช สิบทอดกันมายาวนานกว่า 100 ปี สำหรับท่านที่มาเยี่ยมจะได้เยี่ยมชม กรรมวิธีการเผา (ภาษาใต้คือการหมกไฟ) กรรมวิธีการตอก และให้ทดลองตอกและชิมกันแบบสดๆ ไม่เหมือนใครค่ะ ได้ชิมรสชาติเนื้อมะม่วงหิพานต์แท้ๆ ว่าเผาสดเป็นแบบไหน รสชาติ อย่างไร ได้เยี่ยมชมต้นมะม่วงหิมพานต์จริงติดๆโรงงาน

เผามะม่วงหิมพานต์กลางป้า นครศรีธรรมราชบริเวณฟาร์ม สถานผลิต และจุดแสดงกรรมวิธีการเผาแบบดั้งเดิม คั่วไปสักพักไฟก็ขึ้นตามภาพเลยค่ะ แล้วเราค่อยทำให้ไฟดับแบบดั้งเดิมคือเทบนทรายเลยค้่ะแล้วก็มาหยิบเม็ดใส่ภาชนะเพื่อนำไปตอกเม็ดต่อ เม็ดดำที่ผ่านการเผาเรียบร้อยแล้ว

 เตรียมพื้นที่ตอดกัน แล้วก็นั่งตอดกันเลยค่ะ  อย่าลืมใส่ถุงมือตอดทุกครั้งนะคะ เพราะว่าเม็ดยังมียางจะกัดมือเอาได้ค่ะ พอตอกแล้วก็จะเห็นเม็ดที่มีเยื่อบางๆอยู่เราต้องนำไปปลอกเปลือกออกก่อนไปแปรรูปต่อ  พอเราแปรรูปเสร็จก็บรรจุลงภาชนะและทำให้เม็ดมะม่วงหิมพานต์สะอาดปลอดภัยและสามารถเก็บไว้ได้เป็นปีเลยค่ะแบบซองก็เป็นอีกแบบของเราค่ะ เห็นที่ไหนอย่าลืมอุดหนุนกันนะคะ รายได้ส่วนหนึงคืนสู่สังคม ชุมชน เกษตรกร ไม่ทางตรงก็ทางอ้อมแน่นอนค่ะ

♥️ โทร 084-228-9246
♥️ Line : @grandmomaead
♥️ Ig : grandmomaead
♥️ https://www.facebook.com/grandmomaead
♥️ https://www.youtube.com/c/grandmomaead
*รับตัวแทนจำหน่ายค่ะ*
*รับผลิตแบรนด์สินค้า (OEM)