มะม่วงหิมพานต์ ชะลอวัย ช่วยคุมน้ำหนัก!

มะม่วงหิมพานต์ ชะลอวัย ช่วยคุมน้ำหนัก!

ใบมะม่วงหิมพานต์
ผลงานวิจัยยอดอ่อนมะม่วงหิมพานต์มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
กรกฎาคม 1, 2018
ประโยชน์มะม่วงหิมพานต์นั้นมีมากมาย
กันยายน 14, 2018
เม็ดมะม่วงหิมพานต์

มะม่วงหิมพานต์ เป็นของรับประทานเล่นสุดโปรดของใครหลายๆคน เพราะรสชาติหอมมันเคี้ยวเพลิน เอาไปคั่วและโรยเกลือยิ่งอร่อย เม็ดมะม่วงหิมพานต์จึงเป็นของที่คนนิยมรับประทาน หาซื้อได้ตามร้านของฝากห้างร้านต่างๆ แต่นอกจากความอร่อยแล้ว รู้หรือไม่ว่า ยังมีสรรพคุณในการช่วยลดน้ำหนัก และต้านโรคเบาหวานอีกด้วย ลองไปอ่านข้อมูลที่เรานำมาฝากกัน

เม็ดมะม่วงหิมพานต์ต้านเบาหวานช่วยควบคุมน้ำหนัก 

เม็ดมะม่วงหิมพานต์ จัดเป็นขนมขบเคี้ยวสายพันธุ์ถั่ว ที่มีงานวิจัยสนับสนุน พบว่า ชาวสเปนหลังจากกินเม็ดมะม่วงหิมพานต์มีการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนัก ใครที่กินเม็ดมะม่วงหิมพานต์หรือถั่วชนิดต่างๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง มีโอกาสน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่า ผู้ที่ไม่กินถึง 31 เปอร์เซ็นต์ หากกินทดแทนขนมซึ่งมีส่วนประกอบของน้ำตาลและไขมันปริมาณมาก จะช่วยควบคุมน้ำหนักไม่ให้เพิ่มขึ้นได้

อาจกล่าวได้ว่า เม็ดมะม่วงหิมพานต์อุดมด้วยใยอาหารและไขมันดีกินแล้วอยู่ท้อง ทั้งยังให้พลังงานต่ำกว่าขนมแปรรูปที่มีส่วนประกอบของน้ำตาลและไขมันซึ่งให้พลังงานสูง จึงช่วยควบคุมน้ำหนักตัวได้

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยมอนทรีออล ประเทศแคนาดา (University of Montreal)  ตีพิมพ์ผลงานวิจัยในวารสาร Molecular Nutrition & Food Research โดยระบุว่า สารสกัดจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์มีประสิทธิภาพในการต้านโรคเบาหวาน โดยสามารถกระตุ้นให้เกิดการลำเลียงน้ำตาลเข้าสู่เซลล์กล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น มีผลควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและป้องกันภาวะดื้อต่ออินซูลิน (Insulin Resistance)

 

ยอดของต้นมะม่วงหิมพานต์ สุดยอดคุณประโยชน์เป็นยาอายุวัฒนะทีดีเลยทีเดียว

ใบมะม่วงหิมพานต์

ยอดมะม่วงหิมพานต์ที่นิยมกินเคียงน้ำพริกแท้จริงคือยาอายุวัฒนะชะลอวัย ยอดมะม่วงหิมพานต์ 1 ถ้วย (21 กรัม) มีสารแอนติออกซิแดนต์หลายชนิดในปริมาณสูง ได้แก่ พอลิฟีนอล (Polyphenol) 861 มิลลิกรัม ไซยานิดิน (Cyanidin) 7.84 มิลลิกรัม และพีโอนิดิน (Peonidin) 0.16 มิลลิกรัม

หนังสือโภชนาการกับผัก สถาบันโภชนาการมหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า ยอดมะม่วงหิมพานต์ มีประสิทธิภาพในการต้านฟรีแรดิคัลสูงมาก มีค่า ORAC (Oxygen Radical Absorbance Capacity) สูงถึง 7,278 ไมโครโมล ทีอี (ค่า ORACยิ่งสูง ยิ่งแสดงว่ามีประสิทธิภาพในการต้านฟรีแรดิคัลมาก) จึงช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลายและชะลอความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ ซึ่งเป็นสาเหตุของความแก่ได้

วิธีการเลือกซื้อผลเม็ดมะม่วงหิมพานต์สวยๆคุณภาพดี

เม็ดมะม่วงหิมพานต์ควรเป็นเม็ดแห้ง ไม่ชื้น ไม่มีน้ำมันติดมือ ไม่มีกลิ่นอับ ไม่มีกลิ่นเหม็นหืน ทั้งนี้เพื่อให้แน่ใจในความสะอาดและปลอดภัยจากเชื้อรา เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ควรบรรจุในถุง หรือภาชนะใสที่ปิดสนิท

วิธีเก็บรักษาเม็ดมะม่วงหิมพานต์

เม็ดมะม่วงหิมพานต์นั้นเหม็นหืนง่าย เพราะมีปริมาณกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูงมาก ฉะนั้นควรเก็บในขวดแก้ว หรือภาชนะสุญญากาศ  และเก็บไว้ในที่แห้ง หลีกเลี่ยงการวางปะปนกับเครื่องเทศ หรืออาหารมีกลิ่นแรงเพื่อป้องกันการดูดกลิ่นจากอาหารชนิดอื่น สามารถเก็บในตู้เย็นได้นานถึง 6 เดือน และหากเก็บในช่องแช่แข็งสามารถยืดอายุการเก็บรักษาได้นานถึง 1 ปี

ถ้าไม่อยากอ้วนลงพุง และชอบหาขนมหรือของรับประทานเล่นระหว่างวัน เพื่อนๆลองเปลี่ยนจากขนมคบเคี้ยว สเน็คกรุบกรอบ มาเป็นเม็ดมะม่วงหิมพานต์คั่วโบราณแทนดีกว่าค่ะ หอม มัน กรอบ อร่อย ไม่อ้วนและดีต่อสุขภาพมากจริงๆ (แบบถุง 100 บาท กล่อง 160 บาทค่ะ)

 

ขอบคุณข้อมูลจาก http://goodlifeupdate.com/healthy-body/90552.html